แอลคาร์นิทีน สุดยอดสารเร่งการเผาผลาญ

แอลคาร์นิทีน สุดยอดสารเร่งการเผาผลาญ

แอลคาร์นิทีน หรือ L-Carnitine เป็นสารจากร่างกายที่สามารถผลิตโดยตับ และไต แล้วจึงนำไปเก็บที่กล้ามเนื้อ สารชนิดนี้ประกอบไปด้วยกรดไลซีน (Lysine) และกรดเมทไทโอนีน (Methionine) ซึ่งทั้ง 2 ชนิดนี้เป็นกรดอะมิโน โดยปกติแล้วนั้นสารแอลคาร์นิทีน ร่างกายสามารถผลิตได้เองจากการที่มนุษย์บริโภคเนื้อสัตว์  นม ถั่วเหลือง รวมไปถึงอะโวคาโด สารชนิดนี้จึงเหมาะกับบุคคลที่ทานมังสวิรัติเป็นอย่างมาก อีกทั้งแอลคาร์นิทีนยังมีคุณสมบัติอื่นๆ อีก วันนี้ วิณพา จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับสารนี้กันค่ะ

ประโยชน์ของแอลคาร์นิทีน

หากพูดถึงแอลคาร์นิทีน หลายคนอาจจะคิดแค่ว่าสารชนิดนี้มีประโยชน์ในการช่วยเปลี่ยนไขมันให้เป็นพลังงานในร่างกาย แต่ความจริงแล้วแอลคาร์นิทีนนั้นมีประโยชน์ในด้านอื่น ๆ ด้วย เช่น เสริมด้านความจำ หรือแก้ไขปัญหาการมีบุตรยาก และยังมีอีกหลายข้อ ไปทำความรู้จักพร้อมๆ กันเลย

  • มีส่วนช่วยในการเผาผลาญไขมัน : แอลคาร์นิทีนเป็นสารคล้ายวิตามินที่ถูกสร้างขึ้นในรูปแบบของอาหารเสริม ซึ่งมีประโยชน์อยู่หลายด้าน ในที่นี้จะพูดถึงส่วนของการเร่งอัตราการเผาผลาญของไขมันในร่างกาย จะน่าสนใจอย่างไรบ้าง ไปอ่านพร้อม ๆ กันเลย
  1. ช่วยในเรื่องเผาผลาญไขมัน
  2. ช่วยทำให้พลังงานมากขึ้นระหว่าง และหลังออกกำลังกาย
  3. ช่วยเพิ่มการเผาผลาญเพื่อลดน้ำหนัก
  4. ช่วยฟื้นฟูร่างกายให้ดีขึ้น
  5. สามารถช่วยระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
  • ช่วยเสริมสร้างความจำ : แอลคาร์นิทีนนอกจากจะช่วยเรื่องจัดการไขมันในร่างกายแล้วนั้น ยังช่วยเรื่องเสริมระบบประสาทให้ดีขึ้น และยังช่วยป้องกันความเสียหายของเซลล์ระบบประสาทที่เสื่อมสภาพอีกด้วย ผู้สูงอายุบางคนก็เลือกที่จะบริโภคแอลคาร์นิทีน เพื่อช่วยบำรุงระบบประสาทเพื่อไม่ให้เสื่อมสภาพเกินวัยอันควร

  • ช่วยแก้ปัญหาผู้ชายที่มีบุตรยาก : ช่วยแก้ไขปัญหาคุณผู้ชายที่มีบุตรยาก แอลคาร์นิทีนนั้นสามารถช่วยคุณผู้ชายที่มีบุตรยากได้ เพราะว่ามีสรรพคุณบำรุงน้ำเชื้อให้แข็งแรง และมีคุณภาพดีมากขึ้น ดังนั้นคุณผู้ชายที่มีภาวะน้ำเชื้อไม่แข็งแรงจากพันธุกรรม หรือจากอาหารการกิน ควรเปิดใจศึกษาข้อมูล และบริโภคแอลคาร์นิทีนเป็นอย่างมาก

  • ช่วยแก้ปัญหาผู้หญิงที่มีบุตรยาก : นอกจากแอลคาร์ทินีนจะช่วยบำรุงน้ำเชื้อของสุภาพบุรุษแล้วนั้น ก็ยังช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ของสุภาพสตรีอีกด้วย โดยแอลคาร์นิทีนสามารถเพิ่มการตกไข่ และเกิดโอกาสในการตั้งครรภ์ง่ายขึ้น แต่ทั้งนี้ เรื่องการบริโภคแอลคาร์นิทีนเพื่อตั้งครรภ์ก็ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อความปลอดภัยของคุณสุภาพสตรี และบุตรในครรภ์

  • ช่วยทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น : มีกรดอะมิโนจำนวนมากอยู่ในสารแอลคาร์นิทีน ซึ่งเป็นกรดที่จำเป็นต่อโครงสร้างที่ดีของระบบหลอดเลือด และหัวใจ อีกทั้งยังสามารถช่วยลดความเสี่ยงการหยุดเต้นของหัวใจ รวมไปถึงลดความเสี่ยงของหัวใจล้มเหลวได้อีกด้วย

  • ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ : แอลคาร์นิทีนนั้น เป็นที่นิยมของคนรักการออกกำลังกายเป็นอย่างมาก เพราะช่วยในเรื่องของการเสริมสร้างกล้ามเนื้อที่แข็งแรง แอลคาร์นิทีนนั้นสามารถมีส่วนช่วยในการดึงไขมัน และกรดไตรกลีเซอไรด์ออกมา ทำให้ร่างกายลดไขมันลงได้ และสามารถเปลี่ยนแปลงเป็นกล้ามเนื้อได้ในที่สุด ข้อควรระวัง ควรศึกษาให้ดีและบริโภคอย่างมีสติ

ประเภทของแอลคาร์นิทีน

หลายคนคงสงสัยกันว่าแอลคาร์นิทีนนอกจากจะมีประโยชน์สามารถช่วยเหลือบำรุงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายแล้วนั้น แอลคาร์นิทีนยังแบ่งออกเป็น 4 ประเภทด้วย ได้แก่ D-Carnitine, Acetyl L-Carnitine, Propionyl L-Carnitine และ L-Carnitine L-Tartate แต่ละประเภทเป็นอย่างไรบ้าง มาดูกันค่ะ

  • D-Carnitine แอลคาร์นิทีนชนิด D-Carnitine เป็นแอลคาร์นิทีนที่ไม่ออกฤทธิ์ต่อร่างกาย ไม่พร้อมใช้งาน หรือเข้าใจได้ว่าเป็นรูปแบบที่ร่างกายนั้นไม่สามารถนำมาใช้งานได้ อีกทั้งยังขัดขวางการทำงานของแอลคาร์นิทีนประเภทอื่น
  •  Acetyl L-Carnitine แอลคาร์นิทีนที่มีประโยชน์มากในการช่วยรักษาโรค และช่วยบำรุงสมอง คือ Acetyl L-Carnitine เป็นแอลคาร์นิทีนที่ดูดซึมง่าย และเร็วที่สุด​ โดยสามารถรักษาโรคอัลไซเมอร์ที่พบในผู้สูงอายุได้ดี รวมไปถึงโรคเสื่อมของระบบประสาทอีกด้วย
  •  Propionyl L-Carnitine เป็นแอลคาร์นิทีนที่คู่ควรกับผู้ที่มีปัญหาทางการไหลเวียนของระบบเลือด เพราะแอลคาร์นิทีนชนิดนี้มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มกรดไนตริกออกไซด์ อีกทั้งยังช่วยเหลือในเรื่องโรคที่เกี่ยวกับเส้นเลือดแขน และขาได้อีกด้วย
  •  L-Carnitine, L-Tartate ชนิดสุดท้าย L-Carnitine, L-Tartate แอลคาร์นิทีนชนิดนี้มีราคาถูกมากกว่าแอลคาร์นิทีนชนิดอื่น ๆ แต่สามารถดูดซึมได้อย่างรวดเร็ว และดีมาก ๆ อีกด้วย ช่วยในเรื่องของผู้ที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อ นิยมอย่างมากในกลุ่มคนที่ชอบออกกำลังกาย และนักกีฬา

ผู้ที่มีโอกาสขาดสารแอลคาร์นิทีน

การใช้ชีวิตความเป็นอยู่ รวมไปถึงอาหารการกินของแต่ละบุคคลนั้นย่อมแตกต่างกัน ดังนั้นจึงไม่แปลกที่บางคนอาจจะขาดสารอาหารแอลคาร์นิทีน ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ในหลาย ๆ กรณี ยกตัวอย่าง เช่น คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร หรือคนที่รับประทานมังสวิรัติ เพราะแอลคาร์นิทีนนั้นส่วนใหญ่พบได้ในอาหารประเภทโปรตีนเนื้อสัตว์ โดยแอลคาร์นิทีนนั้นจะพบได้ในเฉพาะพืชจำพวก ถั่ว, งา, ฟักทอง, ธัญพืช รวมไปถึงขนมปังโฮลวีท ถึงแอลคาร์นิทีนจะสามารถพบในพืชบางประเภทแล้วก็ตาม ปริมาณของแอลคาร์นิทีนที่พบในพืชก็ยังคงน้อยกว่าปริมาณแอลคาร์นิทีนที่พบในเนื้อสัตว์