รู้หรือไม่ ใบบัวบก ...ไม่ได้มีดีแค่แก้ช้ำใน
ใบบัวบก ใครๆ ก็บอกว่าแก้ช้ำใน โดยเฉพาะ “อกหักมาเหรอ ดื่มน้ำใบบัวบกสิ” ประโยคนี้อาจจะดูเป็นประโยคคุ้นๆ หูกันมาบ้าง หรือในหมู่เพื่อนของเราเมื่อหลายปีก่อน แต่นอกจากใบบัวบกจะช่วยแก้ช้ำในแล้ว ยังมีสรรพคุณดีๆ ที่ไม่ต้องรอให้อกหักก่อนก็จะกินได้
บัวบก เป็นพืชเมืองร้อนที่มีต้นกำเนิดจากแถบอินเดีย มีการนำมาใช้อย่างกว้างขวางในวงการแพทย์ตะวันออกและอายุรเวท บัวบกช่วยเสริมการไหลเวียนของโลหิต โดยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเส้นเลือดดำและเส้นเลือดฝอยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดทั่วร่างกาย ใช้ในการรักษาอาการเจ็บและบวมจาดเส้นเลือดดำอักเสบอย่างได้ผลดี รวมถึงอาการปวดเกร็งหรือตะคริวที่ขาด้วย บัวบกส่งผลให้ร่างกายสงบ จึงอาจช่วยบรรเทาอาการซึมเศร้า และช่วยให้ความจำดีขึ้นได้ด้วย บัวบกส่งเสริมเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน จึงเชื่อกันว่ามันช่วยให้แผลหาย โดยกระตุ้นการสร้าเส้นใยเคราติน ซึ่งอาจช่วยลดการเกิดบาดแผลเป็นและรอยแตกลายในยามตั้งครรภ์ ยิ่งไปกว่านั้น วารสารทางการแพทย์ของฝรั่งเศสได้ตีพิมการศึกษาที่พบว่า แผลของผู้หญิงที่ใช้บัวบกหลังคลอดจะหายเร็วกว่าผู้หญิงที่รักษาปกติ
ประโยชน์ดีๆ ของใบบัวบกที่คุณอาจไม่เคยรู้
- แก้อาการช้ำใน ลดอาการอักเสบ
- เสริมสร้างและกระตุ้นการสร้างคอลาเจน และอิลาสติกให้ผิวหนังเปล่งปลั่ง
- บำรุงดวงตาและสายตา เพราะใบบัวบกมีวิตามินเอสูง
- บำรุงประสาทและสมอง เพิ่มความสามารถในการจำ ลดความเสี่ยงอัลไซเมอร์ หรือสมองเสื่อม
- ลดความเครียดและคลายความกังวลได้
- แก้อาการปวด เวียนศีรษะ
- บรรเทาอาการเจ็บคอ ร้อนใน กระหายน้ำ
- ลดระดับน้ำตาลในเลือด
- รักษาโรคความดันโลหิตสูง
- บำรุงโลหิต รักษาภาวะโลหิตจาง
สรรพคุณของใบบัวบกกับผลการวิจัย
งานวิจัยได้กล่าวถึงบัวบกเอาไว้ว่า เป็นพืชที่มีสรรพคุณโดดเด่นในด้านการบำรุงสมองเช่นเดียวกันกับแปะก๊วย ช่วยกระตุ้นสมองในการจดจำสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้น และช่วยพัฒนาการเรียนรู้ทางสมอง และด้วยคุณสมบัติพิเศษเหล่านี้ทำให้มันกลายเป็นพืชที่ถูกจดสิทธิบัตรสารสกัดจากบัวบกที่มีหน้าที่่ช่วยเพิ่มความจำ จากการทดลองในลูกหนู พบว่ามีความจำและการเรียนรู้ที่ดีขึ้น ส่วนในคน มีการทดลองในเด็กพิเศษ ด้วยการกินบัวบกวันละ 500 มิลลิกรัม ติดต่อกัน 3 เดือน เปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม พบว่ามีความสามารถในการเรียนรู้ที่ดีกว่า ส่วนในผู้สูงอายุให้ทดลองกินสารสกัดบัวบก 750 มิลลิกรัม ติดต่อกัน 2 เดือน พบว่า ทั้งความจำและการเรียนรู้ดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดอารมณ์แปรปรวน ทำให้ผู้สูงอายุมีอารมณ์ดีมากขึ้นด้วย ในรายที่เป็นวัยทำงาน ได้ทำการทดลองกับผู้หญิงอายุประมาณ 33 ปี กินสารสกัดบัวบก 500 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง พบว่าช่วยลดความเครียด ความวิตกกังวล และภาวะซึมเศร้าลงได้ เมื่อเจาะลึกลงไปถึงระดับเซลล์ พบการทำงานของสารสกัดบัวบกที่ตรงเข้าออกฤทธิ์กับสมอง ช่วยทำให้การหายใจระดับเซลล์ภายในสมองทำงานได้ดีขึ้น มีสารต้านอนุมลอิสระ ช่วยสร้างสมดุลสารสื่อประสาท และต้านการเสื่อมสภาพของเซลล์สมองได้
ข้อควรระวังในการใช้ใบบัวบก
- ก่อนรับประทานใบบัวบกเพื่อเป็นยา จะต้องตรวจสอบสุขภาพร่างกายของตนเองก่อนว่าพื้นฐานแล้วมีโรคประจำตัวอะไรที่มีความเสี่ยงหรือไม่ เพราะสารบางชนิดในใบบัวบก จะเข้าไปทำให้อาการของโรคกำเริบมากขึ้นได้
- เนื่องจากบัวบกเป็นยาที่มีฤทธิ์เย็น การรับประทานมากเกินไปจะทำให้สะสมในร่างกายจนรู้สึกหนาวมากขึ้นได้
- หลีกเลี่ยงการกินใบบัวบกติดต่อกันทุกวัน หรือกินครั้งละมากๆ เมื่อกินติดต่อกันประมาณ 1 อาทิตย์แล้ว ก็ควรหยุดพัก 1 อาทิตย์ แล้วค่อยกลับมากินใหม่
- สำหรับคนที่กินใบบัวบกสดๆ ติดต่อกันทุกวัน ควรกินในสัดส่วนประมาณวันละ 3-6 ใบ ไม่ควรเกินไปกว่านี้
- หากร่างกายมีอาการอ่อนเพลีย เวียนหัว ใจสั่น หรือหัวใจเต้นผิดปกติ รู้สึกคันตามผิวหนัง ท้องร่วง ภายหลังจากการกิน ควรหยุดกินทันทีและรีบเข้าพบแพทย์อย่างเร่งด่วน
- ในกลุ่มคนที่ต้องกินยาแก้แพ้ ยานอนหลับ หรือยากันชัก ไม่ควรกินใบบัวบก เนื่องจากจะยิ่งไปเพิ่มฤทธิ์ให้รู้สึกง่วงซึมมากขึ้น