5 ชนิดของ สารเคมี ที่คุณควรระวังในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารลดน้ำหนัก!!
สารเคมี ที่ผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารลดน้ำหนักในปัจจุบันมีอยู่หลากหลายชนิด หลายคนเกิดข้อสงสัยว่าเพราะอะไรผลิตภัณฑ์เสริมอาหารลดน้ำหนักต่างๆ ถึงต้องใส่สารเคมีเข้าไปด้วย?? สาเหตุที่โรงงานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารลดน้ำหนักต้องผสมสารเคมีลงไปนั้นเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ต่างๆออกฤทธิ์และเห็นผลได้รวดเร็วขึ้น จึงต้องมีการใส่สารเคมีต่างๆเข้าไป ข้อดีของการใส่สารเคมีคือการให้ได้มาซึ่งผลลัพธ์ที่เร็วแต่ในขณะเดียวกัน ขึ้นชื่อว่า สารเคมี แล้วล่ะก็ย่อมส่งผลข้างเคียงต่อร่างกายของเราอยู่แล้ว วันนี้ วิณพา จึงขอพาทุกคนไปรู้จักกับสารเคมีต่างๆ ที่ผสมอยู่ในอาหารเสริมลดน้ำหนักกัน และเพื่อฝากเป็นความรู้ให้แก่ผู้ที่กำลังรับประทานให้เกิดความระมัดระวังมากยิ่งขึ้นค่ะ
หลายๆ คนนิยมรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารลดน้ำหนัก เพราะถือว่าเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับคนในปัจจุบันที่ไม่มีเวลาไปออกกำลังกายหรือแม้แต่หาอาหารจำพวกอาหารคลีนมารับประทานมากนัก ทุกคนจึงเลือกที่จะรับประทานอาหารเสริมลดน้ำหนักเพราะสะดวกสบาย อาหารเสริมลดน้ำหนักบางตัวก็สามารถรับประทานได้ง่ายๆ อาทิเช่น การผสมกับน้ำดื่มแล้วทานได้เลย หรือแม้แต่รวมไปถึงการผสมลงไปกับอาหารที่เราทาน จึงทำให้หลายๆ คนเลือกซื้อหามารับประทาน แต่น้อยคนนักที่มักจะนึกถึงสุขภาพระยะยาวมากกว่าการลดน้ำหนักที่เห็นผลได้ในเพียงแค่ระยะเวลาสั้นๆ เพราะสารเคมีที่ผสมอยู่อาจจะส่งผลกระทบกับร่างกายของเราได้ในอนาคตข้างหน้า
5 ชนิดของสารเคมีในผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดน้ำหนัก
1. Sibutramine (สารไซบูทรามีน) : เป็นสารเคมีอินทรีย์ มีลักษณะเป็นผงแป้งสีขาวคล้ายเกลือหรือน้ำตาล ไม่มีกลิ่น เป็นสารที่สามารถพบในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารลดน้ำหนักมากที่สุด สารเคมีชนิดนี้จะออกฤทธิ์ควบคุมการเผาผลาญของร่างกาย ลดความอยากอาหาร รู้สึกอิ่มง่าย แต่มีผลข้างเคียงทำให้ปากแห้ง คอแห้ง ใจสั่น ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ ท้องผูก และที่พบบ่อยคือ ทำให้เกิดความดันโลหิตสูง หัวใจเต้นเร็วขึ้น ถ้าหากรับประทานมากเกินไปอาจบีบหัวใจ จนถึงขั้นเสียชีวิตได้ แม้ว่าทางอย. จะยกเลิกการขึ้นทะเบียนของสารไซบูทรามีน แต่ก็ยังมีผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักอีกหลายยี่ห้อที่แอบเจือปนสารไซบูทรามีนอยู่เป็นจำนวนมาก แน่นอนว่าไม่มีทางทราบว่าผลิตภัณฑ์นั้นมีสารไซบูทรามีนเจือปนอยู่จนกว่าจะรับประทานเข้าไปแล้วพบว่ามีอาการข้างเคียงข้างต้น
2. Fenfluramine : สารเคมีชนิดนี้จะออกฤทธิ์คล้ายกับสารเคมีชนิดแรก Siburamine ซึ่งทำให้ผู้ที่รับประทานเข้าไปไม่รู้สึกว่าหิว แต่จะส่งผลกระทบต่อลิ้นหัวใจของเรา จนอาจทำให้เกิดการเสียชีวิตจากโรคที่เกี่ยวข้องกับหัวใจได้
3. Dexfenfluramine : สารเคมีชนิดนี้จะออกฤทธิ์กดประสาท ทำให้ผู้ที่รับประทานสารเคมีตัวนี้เข้าไปจะไม่รู้สึกหิวตลอดทั้งวัน ส่งผลให้เกิดอาการขาดสารอาหาร ไร้เรี่ยวแรง ซึมเศร้า หงุดหงิดง่าย เมื่อเรารับประทานเข้าไปโดยที่เราทานในระยะเวลานานๆ จะทำให้เกิดอาการประสาทหลอน เป็นโรคจิต และอาจจะส่งผลทำให้เกิดอาการคลุ้มคลั่งขึ้น
4. Phentermine (เฟนเทอร์มีน) : เป็นสารเคมีที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท มีสูตรโครงสร้างคล้ายคลึงกับยาแอมเฟตามีน (Amphetamine ยากระตุ้นระบบประสาทที่ใช้รักษาโรคทางจิตเวช) วงการแพทย์ได้นำยานี้มาใช้เป็นยาลดน้ำหนัก โดยจะออกฤทธิ์กดศูนย์การหิวที่สมอง ทำให้ร่างกายไม่อยากอาหาร และหากรับประทานยานี้มากเกินขนาดจะทำให้ส่งผลข้างเคียง เช่น อ่อนเพลีย ท้องเสีย ท้องผูก ความดันโลหิตสูง ซึมเศร้า เกิดความผิดปกติของการเต้นของหัวใจ เกิดจิตหรือประสาทหลอน เกิดอาการชัก สมรรถภาพทางเพศลดลงหรืออาจจะรุนแรงถึงขั้นสมรรถภาพทางเพศเสื่อมได้
5. ธัยยอยด์ฮอร์โมน : สารเคมีชนิดนี้จะช่วยในการเพิ่มอัตราของการเผาผลาญพลังงานในร่างกายให้มากขึ้น แต่จะมีผลข้างเคียงโดยเพิ่มการทำลายโปรตีนของกล้ามเนื้อ ใจสั่น หรือมีอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ เป็นต้น
เราบริษัท วิณพา จำกัด รับผลิตอาหารเสริมทุกประเภท อาทิเช่น อาหารเสริมสุขภาพ อาหารเสริมผู้หญิง อาหารเสริมผู้ชาย หรือแม้แต่ อาหารเสริมควบคุมน้ำหนัก ทั้งนี้ทั้งนั้น บริษัทของเรากล้ารับประกันได้ว่าเราผลิตอาหารเสริมโดยไม่มีส่วนประกอบที่ผสมสารเคมี 100% แน่นอน เนื่องจากเราคำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมากับผู้บริโภคในอนาคต อีกทั้งโรงงานของเรายังมีมาตราฐานสากลโลกรองรับอีกด้วย เราจึงกล้ารับประกันว่า "ผลิตภัณฑ์ทุกตัวที่ผลิตออกจากโรงงานของเรามีความปลอดภัยกับผู้บริโภคมากที่สุด" เพราะเราใช้หลักการผลิตของ GMP จึงครอบคลุมตั้งแต่สถานที่ตั้งของสถานประกอบการ โครงสร้างอาคาร กระบวนการผลิตที่ดีมีความปลอดภัย และมีคุณภาพได้มาตรฐานทุกขั้นตอน นับตั้งแต่เริ่มต้นวางแผนการผลิต ระบบควบคุมตั้งแต่วัตถุดิบ ระหว่างการผลิต ผลิตภัณฑ์สําเร็จรูป การจัดเก็บ การควบคุมคุณภาพ และ การขนส่งจนถึงผู้บริโภค มีระบบบันทึกข้อมูล ตรวจสอบและติดตามผลคุณภาพผลิตภัณฑ์รวมถึงระบบการจัดการ 2 ที่ดีในเรื่องสุขอนามัย (Sanitation และ Hygiene) ทั้งนี้เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายมีคุณภาพและความปลอดภัยเป็นที่มั่นใจเมื่อถึงมือผู้บริโภค และ GMP ยังเป็นระบบประกันคุณภาพพื้นฐานก่อนที่จะพัฒนาไปสู่ระบบประกันคุณภาพอื่นๆ ต่อไป เช่น HACCP (Hazards Analysis and Critical Control Points) และ ISO 9001:2015 อีกด้วย