เส้นใยอาหาร ที่จะทำให้เรามีสุขภาพดี
เมื่อวารสารของสมาคมแพทย์อเมริกาพิมพ์งานวิจัยที่ระบุว่า เราจะมีสุขภาพที่ดีและมีอายุยืนยาวขึ้นหากรู้จักที่จะรับประทานอาหารหยาบย่อยยากเพื่อให้มี เส้นใยอาหาร ที่ย่อยไม่ได้เข้าสู่ทางเดินอาหารมากขึ้น ผู้คนจำนวนมากจึงดิ้นรนหาอาหารที่มีเส้นใยสูงมารับประทาน โดยที่ส่วนใหญ่แล้วไม่ได้ตระหนักถึงความจริงที่ว่า เส้นใยอาหารแต่ละประเภทมีคุณสมบัติต่างกันและทำหน้าที่แตกต่างกัน
ชนิดของเส้นใยอาหารที่คุณควรรู้จัก
เซลลูโลส (Cellulose) : พบได้ในแป้งโฮลวีต รำ กะหล่ำ ถั่วอ่อน ถั่วแขก ถั่วฝักยาวชนิดสีเหลือง บรอกโคลี กะหล่ำดาว เปลือกแตงกวา พริกไทย แอ๊ปเปิ้ล และแครอท (ให้เส้นใยอาหารที่ไม่ละลายน้ำ)
เฮมิเซลลูโลส (Hemicelluloses) : พบได้ในรำ ซีเรียล ธัญพืชไม่ขัดสี กะหล่ำดาว ผักกาดเขียวปลี บีต (ให้เส้นใยอาหารทั้งแบบละลายและไม่ละลายน้ำ)
ทั้งเซลลูโลสและเฮมิเซลลูโลสจะดูดซับน้ำและช่วยให้ลำไส้ใหญ่ทำงานได้ราบรื่นขึ้น ช่วยให้ของเสียในลำไส้รวมตัวกันเป็นก้อนและเคลื่อนผ่านลำไส้เร็วขึ้น ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยป้องกันท้องผูก แต่ยังอาจช่วยป้องกันโรคติ่งเนื้ออักเสบในลำใส้ใหญ่ ลำไส้แปรปรวน ริดสีดวงทวาร มะเร็งลำไส้ใหญ่ และเส้นเลือดขอดอีกด้วย ข้อควรระวัง : การรับประทานเส้นใยอาหารในปริมาณสูงเป็นข้อห้ามสำหรับผู้ป่วยโรคลำไส้บางชนิด จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มรับประทานเส้นใยอาหารในปริมาณที่สูง
กัม (Gum) : มักพบในข้าวโอ๊ตและผลิตภัณฑ์ต่างๆ จากข้าวโอ๊ต เช่นเดียวกับในถั่วเมล็ดแห้ง (ให้เส้นใยอาหารแบบละลายน้ำ)
เพกทิน (Pectin) : พบในแอ๊ปเปิ้ล ผลไม้รสเปรี้ยว แครอท กะหล่ำดอก กะหล่ำปลี ถั่วเมล็ดแห้ง ถั่วแขก มันฝรั่ง น้ำเตา และสตรอว์เบอร์รี่ (ให้เส้นใยอาหารแบบละลายน้ำ)
กัมและเพกทินมีส่วนสำคัญอย่างมากต่อการดูดซึมในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก พวกมันจะจับกับน้ำดี และช่วยลดการดูดซึมของไขมันและลดระดับคลอเลสเตอรอล กัมและเพกทินชะลอการเคลื่อนที่ของอาหารออกจากกระเพาะโดยการเคลือบเยื่อบุกระเพาะอาหาร ส่งผลให้น้ำตาลถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายหลังอาหารช้าลง จึงมีประโยชน์กับผู้ที่เป็นเบาหวาน เพราะช่วยให้ร่างกายใช้อินซูลินเพื่อลดระดับน้ำตาลน้อยลง ข้อควรระวัง : กัมและเพกทินอาจลดประสิทธิภาพของยาฆ่าเชื้อราในกลุ่มกริสโอฟูลวิน เช่น ไกรฟลูวินวี ไกรแซกติน และฟลูวิซิน
ลิกนิน (Lignin) : เป็นเส้นใยอาหารที่พบได้ในอาหารเช้าประเภทซีเรียล รำ ผักเก่าเก็บ (เมื่อผักถูกเก็บไว้นานจะมีระดับลิกนินสูงขึ้น และถูกย่อยได้น้อยลง) มะเขือม่วง ถั่วแขก สตรอว์เบอร์รี่ ลูกแพร์ และหัวไชเท้า(ให้เส้นใยอาหารแบบละลายน้ำ)
ลิกนินลดอันตรายการย่อยของเส้นใยอาหารอื่น สามารถจับกับน้ำได้ดีเพื่อช่วยลดการดูดซึมของคลอเลสเตอรอล และช่วยให้อาหารผ่านลำไส้ไปได้เร็วขึ้น ข้อควรระวัง : เป็นความจริงที่ว่าพวกเราส่วนใหญ่ยังรับประทานเส้นใยอาหารไม่พอเพียง แต่หากเรารับประทานเส้นใยอาหารมากเกินไปก็อาจก่อให้เกิดอาการลมในท้องมาก ท้องอืด คลื่นไส้ อาเจียน และอาการท้องร่วงได้ นอกจากนี้ยังขัดขวางการดูดซึมของแร่ธาตุบางชนิด เช่น สังกะสี แคลเซียม เหล็ก แมกนีเซียม และวิตามินบี12 ซึ่งเราสามารถป้องกันได้โดยการรับประทานอาหารหมุนเวียนให้หลากหลาย สลับกันไปกับอาหารเส้นใยสูง
เท่าไรจึงจะเพียงพอ ปริมาณเส้นใยอาหารที่แนะนำให้รับประทานต่อวันสำหรับผู้ใหญ่โดยทั่วไปคือ 20-35 กรัม ตารางต่อไปนี้จะช่วยให้คุณเลือกสรรอาหารที่มีเส้นใยอาหารคุ้มค่า ในราคาสบายกระเป๋าที่สุด จากเส้นใยอาหารจานด่วนมาดูกันค่ะ
หน่วยบริโภค อาหาร ปริมาณเส้นใยอาหาร (กรัม)
1 ถ้วย ซีเรียลไม่ขัดสี 23
3/4 ถ้วย ซีเรียลไม่ขัดสีชนิด Bran Buds 18
1 ผลกลาง อะโวคาโด 12
1 ถ้วย เอคอร์นสควอช(ฟักชนิดหนึ่ง คล้ายฟักทอง) 9
1/2 ถ้วย ถั่วดำ 8
1 ถ้วย ราสป์เบอร์รี่ 8
1 ถ้วย แบล็กเบอร์รี่ 7.2
1/2 ถ้วย ถั่วลิมา 7
1/2 ถ้วย ถั่วแดง 6.9
1 ผลใหญ่ แอ๊ปเปิ้ล 6
1 ถ้วย ลูกเกดไร้เมล็ด 6
3/4 ถ้วย หัวพาร์สนิปสุก 5.9
1 ถ้วยปรุงสุก สปาเกตตีโฮลวีต 5.4
5 ชิ้น แบบแห้ง พีชครึ่งลูก 5.3
1 1/2 ถ้วย ข้าวโพดคั่วไขมันต่ำ 5
3 ผลกลาง มะเดื่อฝรั่ง 5
1 ผลใหญ่ ลูกแพร์ 5
1 ผลกลาง มันฝรั่งพร้อมเปลือก 5
1 ถ้วย มันเทศ 5
2/3 ถ้วย เมล็ดข้าวโพด 4.2
1/2 ถ้วย ถั่วลันเตา 4
1 ชิ้นกลาง มัฟฟินโฮลวีต 4
1 ผลกลาง แครอทดิบ 3.7