รวมสารพัด โรค ยอดฮิตที่คนทำงานออฟฟิศจะต้องเผชิญ!!
โรค หลายคนกลัว หรือเกิดอาการกังวลหากได้ยิน แต่โรคต่างๆที่เรากลัว หรือเป็นกังวลว่าจะเกิดขึ้นกับเราและคนใกล้ตัวที่เรารักนั้น หากเรามีวิธีป้องกันและดูแลสุขภาพตัวเองก็สามารถลดอัตราการเกิดของโรคต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์หรือแม้แต่การออกกำลังกายเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันต่างๆ ถือเป็นสิ่งที่เราควรปฎิบัติ เพราะถ้าหากเกิดขึ้นแล้วจะทำให้เราดูแลตัวเองลำบากยิ่งขึ้น วันนี้ วิณพา จึงนำความรู้ของสารพัดโรคที่จะเกิดกับคนที่ทำงานในออฟฟิศมาฝากกันค่ะ
ปัจจุบันในประเทศไทย ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพพนักงานบริษัทหรือทำงานในออฟฟิศเป็นจำนวนมาก เพราะหลายๆคนเลือกที่จะทำอาชีพนี้เนื่องจากเป็นอาชีพที่ไม่ต้องตากแดด ตากฝน แต่สาเหตุพวกนี้ก็ไม่ได้ยืนยันว่าคุณจะปลอดภัยจากการทำงาน เพราะการทำงานโดยการนั้งเวลานานๆ จะส่งผลให้เกิดโรคต่างๆ ตามมาได้ เพราะถ้าหากเกิดขึ้นแล้วจะส่งผลให้ร่างกายเสื่อมเร็ว ทำให้ร่างกายต้องแบกรับความตึงเครียดปราศจากการผ่อนคลาย ซึ่งสามารถแบ่งเป็นโรคยอดนิยมสำหรับคนทำงานออฟฟิศ ดังนี้
นิ่วในถุงน้ำดี
- การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงเป็นประจำ อาจก่อให้เกิดนิ่วในถุงน้ำดีได้ สามารถพบมากในกลุ่มของผู้หญิงช่วงอายุ 40 ปี และคนที่อ้วนยังสามารถมีความเสี่ยงในการเกิดโรคที่ได้มากกว่าคนผอมด้วย โรคนี้ไม่เพียงแค่รับประทานไขมันอย่างเดียว แต่ยังเกิดขึ้นได้จากปัจจัยหลายๆอย่าง เช่น กรรมพันธุ์ การอักเสบและการคลั่งของน้ำดีในถุงน้ำดี แม้แต่การทานยาคุมเป็นเวลานาน และเมื่อเป็นนิ่วในถุงน้ำดีแล้วถ้าไม่รีบรักษาอาจจะก่อให้เกิดอาการเรื้อรังตามมาได้
กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
- คุณผู้หญิงที่นั่งทำงานนานๆ จนบางครั้งลืมเข้าห้องน้ำ หรือบางครั้งต้องเดินทางไปเข้าห้องน้ำที่ไกลจึงทำให้เกิดการอั้นปัสสาวะไว้เป็นประจำ ที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบซึ่งมักจะเกิดจากเชื้อแบคทีเรียเข้าไปทางท่อปัสสาวะ ทำให้เกิดการอักเสบโดยโรคนี้พบมากในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
เครียดนอนไม่หลับ
- โรคเครียด เป็นโรคฮิตสำหรับคนวัยทำงานไม่ว่าจะเป็นคนที่เริ่มทำงานใหม่ๆ หรือแม้แต่คนที่ทำงานมานานเป็นสิบๆปี ซึ่งบางคนรู้ตัวและบางคนอาจไม่รู้ตัวว่าความเครียดกำลังรุมเร้าคุณอยู่ วิธีการหลีกเลี่ยงที่ง่าย คือ พยายามไม่ทำให้ตัวเองเครียด และหาวิธีผ่อนคลายหากรู้สึกตัวว่าตัวเองกำลังมีอาการเครียด
ความดันโลหิตสูง
- เป็นโรคที่ไม่มีอาการเตือนหรือสัญญาณเตือนใดๆ แต่จะเกิดขึ้นสำหรับคนที่อายุ 40 ขึ้นไป ซึ่งเกิดจากปัจจัยบางอย่าง ได้แก่ คนที่มีประวัติของคนในครอบครัวเป็นโรคนี้แบบที่ไม่ทราบสาเหตุมีโอกาสเกิดโรคนี้สูงกว่าคนอื่นถึง 3 เท่า นอกจากนี้ยังสามารถเกิดขึ้นได้จาก ความอ้วน ความเครียด การรับประทานอาหารเค็ม การสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า หรือผู้ที่ทำงานนั่งโต๊ะในสำนักงานจะมีความเสี่ยงสูงกว่าผู้ที่ทำงานใช้กำลัง
โรคอ้วน
- โรคนี้มักเกิดกับคนที่ชอบมีนิสัยรับประทานอาหารไปด้วยทำงานไปด้วย ไม่มีเวลาออกกำลัง ซึ่งผู้หญิงจะสามารถอ้วนได้มากกว่าผู้ชาย และโรคอ้วนยังเป็นบ่อเกิดของโรคสำคัญๆ มากมาย เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ ไขมันในหลอดเลือดสูง ความดันโลหิตสูง เป็นต้น ผู้ที่เป็นโรคอ้วนควรดูแลใส่ใจเรื่องอาหารการกินเป็นพิเศษควรปรึกษานักโภชนากร และควรหาเวลาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคนี้
กรดไหลย้อน
- คนที่รับประทานอาหารไม่ตรงเวลา รีบมากจนเคี้ยวอาหารไม่ละเอียด และเครียดจัดจนอาหารไม่ย่อย อีกทั้งคนที่สูบบุหรี่หรือดื่มเหล้าจัดมักเสี่ยงกับการเป็นโรคกรดไหลย้อน นอกจากนี้ผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้มาเป็น 10 ปี อาจจะนำไปสู่การเกิดโรคมะเร็งหลอดอาหารส่วนปลายได้อีกด้วย
ปวดหลังเรื้อรัง
- การใช้ชีวิตหน้าคอมพิวเตอร์วันละ 8 ชั่วโมงและการใส่รองเท้าส้นสูงบ่อยๆ อาจเป็นเหตุสำคัญของอาการปวดคอ บ่า ไหล่ หลัง แขน ขา และสะโพก เนื่องจากโรคนี้เกี่ยวกับกระดูกสันหลัง ควรพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวินิจฉัยและรักษาได้อย่างถูกต้อง
ต้อหิน ตาพร่ามัว
- 1 ใน 10 ของคนที่อายุ 40 มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดโรคต้อหิน และตาพร่ามัว หรือกำลังเป็นโรคนี้โดยไม่รู้ตัวและที่อันตรายที่สุดคือ ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องตาอาจบอดได้ สาเหตุเกิดจากการใช้สายตานานๆ การอักเสบหรือติดเชื้อของกระจกตาของการใส่คอนแทคเลนส์ ดังนั้นควรตรวจสุขภาพตาเป็นประจำทุกปีเพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต้อหินและภัยร้ายต่าง ๆ
แล้วคุณล่ะคะ ลองหันกลับมาสำรวจความผิดปกติของร่างกายตัวเองแล้วหรือยัง? เพราะการที่เราสังเกตความผิดปกติของร่างกายตัวเองดีๆ อาจจะเห็นสัญญาณเตือนบางอย่างจากร่างกายของเรา ถ้าคุณกำลังเผชิญกับโรคต่างๆที่กล่าวมานี้อยู่ คุณควรรีบหันมาดูแลสุขภาพตัวเองมากยิ่งขึ้น เช่น การตรวจสุขภาพประจำปี ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้ เพราะหากเรารู้ตัวได้ทันโรคต่างๆที่รุนแรงอยู่อาจจะทุเลาลงได้ หรืออาจจะทำให้เรามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงโดยปราศจากโรค เห็นไหมล่ะคะว่าการมีสุขภาพที่ดี ไม่ใช่เรื่องยากเลยเพียงแค่เราลงมือทำ