อะเซโรล่า เชอร์รี่ ...แหล่งสำคัญของวิตามินซีในแบบธรรมชาติ

อะเซโรล่า เชอร์รี่ (Acerola Cherry) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Malpighia emarginata เป็นหนึ่งในเชอร์รี่สายพันธุ์ที่ดีที่สุด จากที่มีการศึกษาว่าสารสกัดจากอะเซโรล่า เชอร์รี่เป็นแหล่งสำคัญของวิตามินซีที่มีในรูปแบบธรรมชาติที่มีมากที่สุดถึง 1000 – 4500 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม

อีกทั้งยังมีโปรตีนและแร่ธาตุสูงโดยเฉพาะ เหล็ก ฟอสฟอรัส แคลเซียม และมีสาระสำคัญตัวหนึ่งชื่อ trans-beta-carotene ซึ่งเชื่อกันว่าสามารถเสริมภูมิต้านทานของร่างกาย นอกจากนี้ยังมีปริมาณของไขมันอิ่มตัวและโซเดียมต่ำ ไม่มีคอเลสเตอรอล และจากผลวิจัยพบว่าอะเซโรล่า เชอร์รี่ มีปริมาณวิตามินซีสูงกว่าที่พบในส้มถึง 30-80 เท่า

วิตามินซีเป็นแร่ธาตุเป็นที่มีความสำคัญต่อร่างกายโดยเฉพาะในเรื่องของการบำรุงผิว และแหล่งวิตามินซีจากธรรมชาติที่มีปริมาณสูงสุดและเป็นที่นิยมในการนำมาผลิตเป็นอาหารเสริมได้แก่ วิตามินซีจากการสกัดจากอะเซโรล่า เชอร์รี่ ซึ่งจัดว่าเป็นผลไม้ที่มีปริมาณวิตามินซีสูงสุด และมีสารต้านอนุมูลอิสระมากที่สุด ซึ่งจากการศึกษาต่างๆ พบว่าประโยชน์ของอะเซโรล่า เชอร์รี่ มีค่อนข้างที่หลากหลาย เช่น สามารถช่วยช่วยซ่อมแซมเซลล์ที่ถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระเนื่องจาก อะเซโรล่า เชอร์รี่ เป็น potent antioxidant, ลดการเสื่อมตัวเร็วของเซลล์, ลดการสังเคราะห์เมลานินส่งผลให้ผิวขาว กระจ่างใส, ลดรอยหม่องคล้ำ ฝ้า กระ, ยับยั้งการเจริญที่ผิดปกติของเซลล์เนื้องอก และที่สำคัญยังมีผลในการเสริมสร้างภูมิต้านทานของร่างกายเนื่องจากมีสารสำคัญที่ ชื่อว่า tran-beta-carotene

7 คุณประโยชน์ของอะเซโรล่า เชอร์รี่

ต้านอนุมูลอิสระ โดยอะเซโรล่า เชอร์รี่มีสาร ไฟโตนิวเทรียนท์ (Phytonutrients) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงประสิทธิภาพร่วมกับวิตามินซีปริมาณมาก ช่วยป้องกันเซลล์ไม่ให้ถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระทั้งจากปัจจัยภายนอกและภายใน
ทำให้ผิวพรรณอ่อนเยาว์ โดยช่วยในการเสริมสร้างคอลลาเจน จึงช่วยให้แผลในร่างกายหายเร็วขึ้น และที่สำคัญยังทำให้ผิวกระชับ เต่งตึง ลดการเกิดริ้วรอยก่อนวัย รวมถึงทำให้รอยเหี่ยวย่นจากวัยลดลงได้ด้วย
ป้องกันมะเร็ง โดยมีสารที่ยับยั้งการก่อตัวของเซลล์มะเร็ง ทั้งยังช่วยยับยั้งเอ็นไซม์ที่ทำให้มะเร็งมีการกระจายตัวอีกด้วย
บรรเทาโรคเบาหวาน อะเซโรล่า เชอร์รี่ช่วยชะลอการย่อยคาร์โบไฮเดรต และการดูดซึมกลูโคส ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานคงที่มากขึ้น
มีวิตามินซี ซึ่งดูดซึมได้ดีกว่าวิตามินซีทั่วไป ข้อมูลวิจัยล่าสุดจากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ของอะเซโรล่า เชอร์รี่ พบว่าวิตามินซีจากผงอะเซโรล่า เชอร์รี่ สามารถเอื้อประโยชน์ต่อร่างกาย (Bioavailable) ได้มากกว่าวิตามินซีที่ได้จากการสังเคราะห์ โดยทั่วไปถึงเกือบสองเท่า ทำให้วิตามินซีจากอะเซโรล่า เชอร์รี่ ในปริมาณเท่ากันกัน มีประโยชน์มากกว่าวิตามินซีทั่วไป
เสริมสร้างภูมิต้านทาน มีการศึกษาพบว่าในผู้ใหญ่หลังรับประทานอะเซโรล่า เชอร์รี่แล้วจะมีระดับของเม็ดเลือดขาวเพิ่มขึ้นในเลือด ซึ่งเม็ดเลือดขาวมีความสำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกันในการกำจัดเชื้อโรคจากร่างกาย
ฆ่าเชื้อราอะเซโรล่า เชอร์รี่ ต้านเชื้อราได้เนื่องจากในผลอะเซโรล่า เชอร์รี่ มีสารออกฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราชนิดต่างๆ ซึ่งทำให้ลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อราตามผิวหนัง หรือในส่วนต่างๆ ของร่างกาย

แล้วคุณจะบริโภคอะเซโรล่า เชอร์รี่ได้อย่างไร?

ไม่มีข้อสงสัยเลยว่าอะเซโรล่า เชอร์รี่ มีคุณประโยชน์ต่อผิวพรรณมากมายเพียงใด แต่คำถามคือบริโภค อะเซโรล่า เชอร์รี่ จากแหล่งไหนถึงได้ประโยชน์สูงสุดต่อร่างกายคุณหล่ะ?

หนทางเดียวที่จะมั่นใจว่าคุณจะได้รับสารอาหารทั้งหมดจากอะเซโรล่า เชอร์รี่ คือ ต้องกินสดๆ โดยที่คุณจะต้องกินผลเชอร์รี่สดใหม่โดยเร็วเพราะมันจะเสื่อมคุณค่าในอย่างรวดเร็วหลังการเก็บเกี่ยว

แต่ที่โชคร้ายคือ ในเมืองไทยการที่จะหาอะเซโรล่า เชอร์รี่ แบบสดๆ มารับประทานนั้น ค่อนข้างยาก (ถึงแม้จะเริ่มมีการปลูกในเมืองไทยแล้วก็ตาม)ดังนั้น หนทางดีที่สุดที่เราสามารถทำได้ คือ รับประทานผลไม้นี้ที่ผ่านการสกัดแปรรูปมาแล้ว อาทิ ในรูปน้ำผลไม้ , แคปซูล หรือแบบผง ถึงแม้ว่าการแปรรูปอาหาร แน่นอนว่าคุณค่าทางโภชนาการจะลดลง แต่ประโยชน์ที่ได้รับนั้น ยังถือว่าดีกว่าการบริโภคผลิตภัณฑ์วิตามิน ซีหรือวิตามินแบบอื่นๆ อยู่เป็นอย่างมาก

สุดท้ายนี้ ถึงแม้ว่ามีผลิตภัณฑ์จากอะเซโรล่า เชอร์รี่มากมายอยู่ในท้องตลาด ทั้งในรูปของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร น้ำผลไม้ ผง ฯลฯ ขอเพียงคุณเลือกซื้อสินค้าจากผู้ขายที่เชื่อถือได้และมีการจัดการและการแปรรูปเชอร์รี่นี้อย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่มีการใช้สารเคมี และมี อ.ย.รับรอง ที่สำคัญผลิตหรือบรรจุจากโรงงานที่ผ่านการรับรองมาตราฐาน GMP อย่างบริษัท วิณพา จำกัด เรารับผลิตอาหารเสริม ครบวงจร ประเภทแคปซูล ผงชงดื่ม พร้อมมีมาตรฐานสากลรองรับ ใส่ใจคุณภาพและมาตรฐานการผลิต เน้นผลิตจากวัตถุดิบจากธรรมชาติแท้ 100% มีมาตรฐานสากลรองรับ เชื่อถือได้ อย่างมาตรฐาน GMP , HACCP , ISO9001:2015 (ฉบับล่าสุด) ประเมินโดยสถาบัน SGS ประเทศอังกฤษ เป็นการประเมินที่นานาประเทศให้การยอมรับและรองรับการส่งออกไปยังต่างประเทศ ทั้งในแถบเอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกาค่ะ

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : คลิก