แครนเบอร์รี่..อาวุธจากธรรมชาติที่ใช้ต่อสู้กับกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

แครนเบอร์รี่ ผลไม้ที่มีสรรพคุณมากมายจัดได้ว่าเป็นผลไม้จากธรรมชาติที่ใช้ต่อสู้กับกระเพาะปัสสาวะอักเสบและการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะได้ดีที่สุดและยังมีประโยชน์อีกมากมาย วันนี้ วิณพา เราได้รวบรวมข้อมูลมาให้ท่านผู้อ่านทุกท่านกันแล้วค่ะ

แครนเบอร์รี่ (Cranberry) จัดเป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ มีลักษณะเป็นไม้เลื้อย ผลแครนเบอร์รี่เป็นผลสีแดงสด มีรสเปรี้ยวหวาน เป็นผลไม้ที่ปลูกในแถบอเมริกาและแคนาดา หรือประเทศเมืองหนาว ซึ่งคนในท้องถิ่นที่ปลูกแครนเบอร์รี่เชื่อว่าเป็นผลไม้ที่จะช่วยให้อายุยืน คงความเป็นหนุ่มสาวได้ยาวนานขึ้น ปัจจุบันแครนเบอร์รี่จึงเป็นผลไม้ที่อยู่ในวิตามินบำรุง และผลิตภัณฑ์เสริมความงามมากมาย ทั้งนี้เรามาทำความรู้จักกับแครนเบอร์รี่กับโรคปัสสาวะอักเสบกันเบื้องต้นก่อนนะคะ

การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ (UTI - Urinary Tract Infections) ภาวะการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ (UTI) นั้นเกิดขึ้นมาจากการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดต่างๆ หลากหลายชนิดซึ่งในแต่ละปีมีผู้ป่วยด้วยโรคนี้จำนวนมาก โดยทั่วไปแล้วการติดเชื้อนี้จะเกิดขึ้นมาจากเชื้อแบคทีเรียอีโคไล (E.coli) (มากกว่า 90% ของผู้ป่วยทั้งหมด) โดยที่แบคทีเรียนี้จะเกาะติดเข้ากับผนังของกระเพาะปัสสาวะและทำให้เกิดการอักเสบ เจ็บปวด และเป็นไข้สำหรับผลแครนเบอร์รี่นั้นได้มีการรายงานข้อมูลว่าเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ในทางการแพทย์ในการรักษาและจัดการกับภาวะการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ (UTI) นอกจากนี้ในงานศึกษาเพิ่มเติมยังพบด้วยว่าผลแครนเบอร์รี่นั้น เป็นตัวยับยั้งเชื้อแบคทีเรียอีโคไล(E.coli) สารพันธุ์ที่มีพิษรุนแรงมากที่สุดมิให้ยึดติดเข้ากับผนังของกระเพาะปัสสาวะได้ ซึ่งคุณสมบัติของผลแครนเบอร์รี่ในการป้องกันการยึดเกาะของเชื้อแบคทีเรียดังกล่าวนี้ยังอาจช่วยป้องกันมิให้เชื้อแบคทีเรียอีโคไล (E.coli) เคลื่อนที่ไปยังอวัยวะในช่องท้องอีกด้วย

นอกจากนี้ ยังมีการรายงานว่าผลแครนเบอร์รี่นั้นสามารถยับยั้งการเกาะยึดของเชื้อแบคทีเรีย H.pylori ที่บริเวณกระเพาะอาหารของมนุษย์ (Gastric Mucus) และเม็ดเลือดแดงของมนุษย์ (Erythrocytes) จากการศึกษาในมนุษย์เมื่อไม่นานที่ผ่านมาพบว่าสารฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) ที่ได้จากผลแครนเบอร์รี่นั้นเป็นสารแอนติออกซิแดนท์ (Antioxidants) ที่มีประสิทธิภาพ อาจมีฤทธิ์ในการเพิ่มระดับสาร Plasma Antioxidant ให้มีมากขึ้นซึ่งจะเป็นการลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจให้น้อยลงได้ และผลของแครนเบอร์รี่นั้นสามารถนำมาใช้ในการป้องกันการเกิดนิ่วในไต ตลอดจนใช้ในการขับสารพิษที่ไม่ต้องการออกจากร่างกาย

แครนเบอร์รี่ผลไม้มากคุณประโยชน์ดูแลสุขภาพ

ประโยชน์ของแครนเบอร์รี่สุดยอดผลไม้แก้หวัด แครนเบอร์รี่เป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง จึงช่วยป้องกันไข้หวัด และโรคต่างๆ ที่มาพร้อมอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้เหมาะที่จะนำมาทำเป็นน้ำผลไม้ปั่นแก้หวัด แก้เจ็บคอ แก้ร้อนใน และบรรเทาปวด เป็นผลไม้ที่จะช่วยเติมความสดใส ช่วยให้ฟื้นไข้ได้เร็วขึ้น และยังเป็นผลไม้ที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย กินแก้ไข้หวัดนอกจากจะได้ภูมิต้านทานที่แข็งแรงจากวิตามินซีแล้วยังช่วยเพิ่มความสดชื่นด้วยรสเปรี้ยวๆ และกลิ่นหอมๆ ของแครนเบอร์รี่ได้อีกด้วย
เป็นผลไม้ลดคอเลสเตอรอล และป้องกันหลอดเลือดตีบ/อุดตันได้ แครนเบอร์รี่เป็นผลไม้ตระกลูเบอร์รี่ ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่ม ฟลาโวนอล (Flavonols) และโปรแอนโธไซยานิดิน (Proanthocyanidins) ช่วยยับยั้งสาเหตุของหลอดเลือดตีบและอุดตันได้ เนื่องจากสามารถเหนี่ยวนำให้ตัวรับไขมันที่ตับทำงานมากขึ้น เป็นผลทำให้เพิ่มการขับออกของไขมันจากระบบไหลเวียนของเลือด และเพิ่มการนำคอเลสเตอรอลเข้าสู่เซลล์ตับเพื่อขับออกได้ ทำให้ลดคอเลสเตอรอลได้นั่นเอง
แครนเบอร์รี่มีสรรพคุณช่วยดูแลสุขภาพในช่องปาก แครนเบอร์รี่มีส่วนประกอบของสารที่สามารถยับยั้งการยึดเกาะและการรวมตัวกันของแบคทีเรียในช่องปากได้ เช่น โรคทางช่องปาก คราบหินปูน และโรคเหงือก เป็นต้น การดื่มน้ำแครนเบอรี่เข้มข้น จะช่วยลดสารที่ทำให้เกิดการอักเสบของเหงือกได้ จึงช่วยลดอาการเลือดออกตามไรฟัน และสารที่กล่าวไปข้างต้นว่าช่วยต้านการอักเสบในแครนเบอร์รี่ จะช่วยลดอาการเหงือกอักเสบ และยังสามารถช่วยลดอาการปวดและอาการเลือดออกมากหลังถอนฟันได้อีกด้วย
ประโยชน์ของแครนเบอร์รี่อุดมไปด้วยสารต้านโรคมะเร็ง ในแครนเบอร์รี่มีสาร Proanthocyanidins ซึ่งมีการทดสอบแล้วพบว่าสามารถทำลายเซลล์มะเร็งรังไข่ได้ โดยจากการทดลองพบว่าการให้สาร Proanthocyanidins จะเกิดการเหนี่ยวนำให้เซลล์มะเร็งตายลง หรือเมื่อให้ร่วมกับยารักษามะเร็งรังไข่ ก็จะเป็นการช่วยเสริมฤทธิ์ยารักษา ให้ลดการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งได้ เคล็ดลับอีกอย่างหนึ่งที่แพทย์ใช้กับผู้ป่วยคือการให้น้ำแครนเบอรี่วันละ 250 มิลลิลิตร ร่วมกับการได้รับยาฆ่าเชื้อในกระเพาะอาหาร สามารถเพิ่มอัตราการทำลายเชื้อได้สูงขึ้น ซึ้งพบในเพศหญิงในผู้ป่วยที่ติดเชื้อ Helicobacter pylori หรือที่เรียกว่าการติดเชื้อในกระเพาะอาหาร หากติดเชื้อเป็นระยะเวลานาน จะส่งผลให้เป็นมะเร็งในกระเพาะอาหารได้

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : คลิก